ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้วัสดุการแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ เพื่อรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก แต่วัสดุและอุปกรณ์การแพทย์ที่สามารถผลิตได้ในประเทศจัดเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับต่ำ ถึงระดับกลาง คือ
๑. กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโลหะ เช่น เตียงผ่าตัด เตียงคนไข้
๒. กลุ่มผลิตภัณฑ์ทันตกรรม เช่น ชุดยูนิตทำฟันครบชุด เครื่องขูดหินปูนไฟฟ้า
๓. กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดแต่งกายสำหรับการใช้งานในห้องผ่าตัด
๔. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทใช้สิ้นเปลืองจำนวนมาก เช่น สำลี ผ้ากอซ ผ้าพันแผล ชุดให้น้ำเกลือ
๕. กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับกลาง เช่น เครื่องรังสีเอกซ์ เครื่องนึ่ง เครื่องวัดความดันโลหิต
ส่วนวัสดุและอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง เช่น วัสดุปลูกฝัง (implant) ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศแทบทั้งหมด ทำให้วัสดุและอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าวมีราคาค่อนข้างสูงส่งผลให้ผู้ป่วยซึ่งมีฐานะยากจนไม่สามารถที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมได้ นอกจากนี้อุปกรณ์บางประเภทที่นำเข้าจากต่างประเทศมักได้รับการออกแบบโดยใช้ข้อมูลกายวิภาคของชาวตะวันตกเป็นหลักซึ่งแตกต่างจากกายวิภาคของคนไทย ดังนั้นจึงทำให้การใช้งานบางครั้งมีอุปสรรคและประสิทธิภาพในการรักษาลดลงซึ่งจากข้อมูลของกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ประเทศไทยนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในช่วง พ.ศ. ๒๕๓๘ - ๒๕๔๑ เป็นมูลค่าปีละ ๖,๐๐๐ - ๘,๐๐๐ ล้านบาท และใน พ.ศ. ๒๕๔๖ มีมูลค่านำเข้า ๑๒,๒๘๓ ล้านบาท โดยส่วนใหญ่นำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทเทคโนโลยีระดับกลางถึงระดับสูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นที่น่ายินดีว่า ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยในด้านการพัฒนาวัสดุการแพทย์เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศอย่างจริงจังและมีหน่วยงานที่ทำวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้นโดยกระจายอยู่ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เกือบทุกแห่งและศูนย์วิจัยเฉพาะทาง เช่น ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนของอุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ซึ่งผลิตจากวัสดุประเภทโลหะเป็นส่วนใหญ่และในส่วนของวัสดุซึ่งมีการวิจัยเน้นหนักทางด้านพอลิเมอร์ เซรามิก และคอมโพสิต เช่น ไฮโดรเจล ไคทิน ไคโตซาน พอลิเมทิลเมทาคริเลต ไฮดรอกซีแอปาไทต์ คอมโพสิตของพอลิเอทิลีนและไฮดรอกซีแอปาไทต์อะมัลกัม ปรากฏว่าผลงานวิจัยบางส่วนได้มีการนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ปัจจุบันเริ่มมีบริษัทของคนไทยที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์จำพวกอุปกรณ์ปลูกฝัง เช่น แผ่นโลหะดามกระดูก สกรู อุปกรณ์ยึดตรึงกระดูกภายนอก อุปกรณ์ยึดตรึงกระดูกสันหลัง แต่วัสดุหรือวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตเครื่องมือแพทย์ดังกล่าวส่วนใหญ่ยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศเนื่องจากยังไม่มีการผลิตขึ้นเองในประเทศไทย